วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

9 สาเหตุที่ทำให้สุนัขขนร่วง และ วิธีการดูแล


9 สาเหตุที่ทำให้สุนัขขนร่วง และ วิธีการดูแลผิวหนัง ขน

สุนัขขนร่วงนั้นจะมีสาเหตุหลัก คือ การผลัดขนตามธรรมชาติ
                     ลูกสุนัขส่วนใหญ่ จะผลัดขนตอนที่อายุประมาณ 3 -4 เดือน เพื่อเปลี่ยนจากขนเด็กไปสู่ขนผู้ใหญ่ และ ผลัดขนอีกครั้งช่วงที่เขามีอายุ 9-12 เดือน  
                     หลังจากผ่านช่วงอายุ 1 ปีไปแล้ว สุนัขจะผลัดขนประจำปี  นั่นคือ  ตัวผู้จะผลัดขนปีละ 1 ครั้ง ถ้าเป็นตัวเมียจะผลัดขนปีละ 2 ครั้ง คือผลัดขนปรกติ และการผลัดขนก่อนที่จะเป็นสัด       มีบางสายพันธ์จะผลัดขนบ่อยมากเช่น เยอรมัน เชพเพิร์ด ซึ่งจะผลัดขนทั้งปี หรือ บางสายพันธ์ที่ไม่ผลัดขน เช่น พุดเดิ้ล  ยอร์กเชีย บริชอน ฟรีเซ่เป็นต้น  
                            
                              ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนเลี้ยงสุนัขควรศึกษาให้ดี ตัวเราเหมาะกับสุนัขสายพันธ์อะไร


โดยธรรมชาติ  ในสายพันธุ์หรือพันธุกรรมเดียวกันตัวผู้จะมีขนยาวกว่าตัวเมีย


สาเหตุอื่นที่ทำให้สุนัขขนร่วงสรุปได้  9 ประการ


1. ผลัดขน  เมื่อผ่านช่วงเหล่านี้ไปแล้วสุนัขก็จะขนขึ้นได้เอง แต่ถ้าอยากให้ผิวหนังและขนที่ขึ้นใหม่แข็งแรงขึ้น ก็อาจบำรุงขน เช่นแชมพู ทรีตเมนต์ หรือ น้ำมันปลา ให้สุนัขด้วยก็ได้ ซึ่งการผลัดขึ้นอยู่สายพันธ์ข้างต้นที่กล่าวมาข้างต้นอีกด้วย  และ รอบการผลัดขนแต่ละสายพันธ์แตกต่างกันคะ

2. สุนัขมีภาวะเครียดหรือป่วย หรือ หลังคลอด และ/หรือ ช่วงที่มีระดับภูมิคุ้มกันของร่างกายต่ำ เมื่อรักษาอาการป่วยจนหายดีแล้วหรือสุนัขหายเครียด ขนก็จะขึ้นมาสวยงามได้เหมือนเดิม

3. ภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล เช่น ฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ ฮอร์โมนคอร์ดิซอลสูงเกินไป ขาดฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโต ฮอร์โมนเพศไม่สมดุล เป็นต้น การรักษาทำได้โดยเสริมฮอร์โมนที่ขาด หรือใช้ยาควบคุมระดับฮอร์โมนที่สูงเกินค่าปกติ แต่ต้องทำการรักษาอย่างระมัดระวัง เพราะอาจมีผลข้างเคียงจากการรักษาได้ สุนัข   ซึ่งหลายตัวที่ขนร่วงเพราะฮอร์โมนเพศไม่สมดุล  สัตว์แพทย์จะรักษาอาการขนร่วงได้โดยการทำหมัน แต่อย่างไรก็ตามหลังจากทำหมันแล้ว สุนัขปกติบางตัวจะมีอาการขนร่วงอยู่ช่วงหนึ่ง เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะขนจะขึ้นได้เอง โดยไม่ต้องได้รับการรักษาใด ๆ หรือ แค่กินยาบำรุงผิวหนังและขน ใช้แชมพูที่อ่อนโยนต่อผขนที่กำลังงอกขึ้นมาใหม่

4. ความผิดปกติทางพันธุกรรม ตัวอย่างเช่น สุนัขชิวาวาสีเทา บลู  หรือ สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน มีปัญหาขนร่วงชนิดหนึ่งที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด   แต่คาดว่าน่าจะเกิดจากความผิดปกติบางอย่างที่ถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม ซึ่งส่วนใหญ่จะพบในเพศผู้ เริ่มพบอาการได้.ตั้งแต่อายุ 1-5 ปี (ขนที่หัวและขาหน้าไม่ค่อยร่วง) เมื่อขนเหล่านี้ร่วงไปก็จะไม่ขึ้นมาอีก ผิวหนังกลายเป็นสีดำ (Black Skin) อาการเหล่านี้ไม่ได้รุนแรงถึงชีวิต บางรายไม่ตอบสนองต่อการรักษาใด ๆ บางรายตอบสนองต่อการทำหมัน บางรายกินยาบำรุงแล้วหาย หรือบางรายหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา ทั้งนี้ต้องวินิจฉัยแยก จากความผิดปกติอื่น ๆ ที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะภาวะ โฮร์โมนไทรอยด์ต่ำด้วย

5. การแพ้ เช่น แพ้อาหาร แพ้น้ำลายเห็บหมัดแพ้ชมพู แพ้สิ่งที่สัมผัส เป็นต้น
ในกรณีที่สงสัยว่าเป็นการแพ้อาหารก็ต้องทำการทดสอบการแพ้อาหารก่อน อาหารกลุ่มใดมีแนวโน้มว่าจะเป็นต้นเหตุของอาการแพ้ ก็ต้องหลีกเลี่ยงหรืออาจเปลี่ยนไปกินอาหารสำเร็จรูปที่ใช้ในการรักษาโดยเฉพาะเลยก็ได้
ในรายที่แพ้น้ำลายเห็บหมัดสามารถรักษาได้โดยการให้กินยาแก้แพ้ เพื่อลดอาการคัน แพ้น้ำลายเห็บหมัด ร่วมกับการควบคุมปริมาณเห็บหมัดบนร่างกาย  
ถ้าแพ้แชมพูก็ต้องเปลี่ยนแชมพูกลุ่มอ่อนโยนต่อผิวหนัง (Hypoallergenic Shampoo)  ไม่ควรใส่ยาฆ่าเชื้อแรง ๆ หรือผลิตภัณฑ์ของคนในการอาบน้ำสุนัข เพราะความเป็นกรดด่างบนผิวหนังของคนและสุนัขมีความแตกต่างกัน

6. การติดเชื้อที่ผิวหนัง เช่น เชื้อรา แบคทีเรีย หรือไรขี้เรื้อน เมื่อกำจัดเชื้อเหล่านี้หมดไป ขนจะหยุดร่วงและ
เริ่มขึ้นใหม่เหมือนเดิม ซึ่งควรปรึกษาสัตว์แพทย์ก่อนซื้อแชมพูยา  หรือ ยามารักษา

7. ภาวะขาดสารอาหาร หรือ ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อร่างกาย  ทำให้สภาพผิวหนังและขนไม่แข็งแรง ขนหลุดร่วงได้ง่าย จึงควรให้อาหารที่มีสารอาหารเหมาะสม  เช่น ถ้าเจ้าของสุนัขให้อาหารสุนัขที่ปรุงเอง ก็ควรสลับเปลี่ยนหมุนเวียนเนื้อสัตว์ต่าง ๆ เสริมผัก หรือโปรตีนจากไข่ลงไปในอาหารบ้าง ไม่ควรให้กินอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งเพียงอย่างเดียวตลอด  หากกินอาหารเม็ด ควรเลือกสูตรที่ดูแลเส้นขนและผิวหนัง ซึ่งในข้างถุงมักจะเขียน ส่วนประกอบเช่น Omega3 and 6 , DHA  และ อื่นๆ ซึ่งแต่ละสูตรในแต่ละแบรนด์ จะมีวิตามิน สารอาหารที่เสริมสร้างโปรตีน Keratin Biotin Omega บำรุงรากขน ของสัตว์เลี้ยงให้เป็นพิเศษ) หรืออาจจะกินอาหารสูตรปกติหรือสูตรบำรุงผิวและขน ก็สามารถเสริมด้วยน้ำมันปลาทะเลได้  เช่น น้ำมันแซลมอน หรือน้ำมันปลาทะเลลึกได้  ****ในส่วนน้ำมันปลาแชลม่อน100%จะขอเปิดอีกหัวข้อหนึ่งนะคะ  ที่ลิงค์นี้คะ





8. อากาศและฤดู  มีผลต่อปริมาณการผลัดขนของสุนัข จะพบว่า ในฤดูร้อนปริมาณขนสุนัขจะร่วงมากกว่าฤดูอื่น หากสุนัขของท่านเลี้ยงในห้องแอร์ อาจจะไม่พบหรือพบน้อยกว่า  ซึ่งสังเกตุได้ว่าสุนัขที่เลี้ยงในห้องแอร์จะมีไขมันใต้ผิวหนังมากกว่าสุนัขที่เลี้ยงในห้องอุณหภูมิปกติ และจะมีขนหนาและยาวกว่า  ซึ่งเป็นกระบวนการปรับสภาพร่างกายเข้ากับสิ่งแวดล้อม   หมาที่อยู่ห้องปรับอากาศตลอด จะไม่ค่อยผลัด ขนแน่นมาก แต่เวลาผลัดขนจะผลัดขนเยอะมากเช่นกัน และผลัดขนออกทีเดียวรวดเดียวเลยคะ (ในส่วนสุนัขของบล๊อกเกอร์ใช้อุณหภูมิที่ 24-25 องศาเซลเซียส)  แต่มีข้อเสียนะคะ...คือ พอพาสุนัขออกมาที่อากาศร้อนนานไม่ได้ มีหอบ ลิ้นห้อย ซึ่งเห็นชัดเลยว่าร่างกายปรับอุณหภูมิไม่ทัน  (พี่เลี้ยงสุนัขคนใหม่ที่เริ่มทำงานขอใส่เสื้อหนาว) อิอิ อาร๊ายมันจะหนาวขนาดนั้น  บล๊อกเกอร์เองยังไม่เห็นหนาวเล๊ยยย

9.การอาบน้ำและการดูแลผิวหนังเส้นขน  การอาบน้ำให้น้องหมาบ่อยเกินไปนั้น ถือเป็นการทำร้ายผิวหนังและขนน้องหมาน้องแมวโดยไม่รู้ตัว  เพราะการอาบน้ำบ่อยจะเป็นการทำลายไขมันที่เคลือบผิวหนังสุนัข (Lipidocolloid) และไขมันที่เคลือบเส้นขน ทำให้แห้ง หยาบ ขาดความเงางาม  ในส่วนของตัวบล๊อกเกอร์เองเช่นกันการอาบน้ำสุนัขมีผลต่อสุขภาพผิวหนัง เส้นขน รวมทั้งการหลุดร่วง  ซึ่งพบว่า หากอาบน้ำด้วยแชมพู  แปรงขน ลงทรีตเมนต์บำรุงผิวหนังและขน อย่างน้อย  7-14  วัน ต่อ 1 ครั้ง จะพบว่า ขนหลุดร่วงน้อยลง เพราะการอาบน้ำเป็นการนำเส้นขนที่หมดอายุให้หลุดร่วงไปตามธรรมชาติโดยให้แรงของน้ำ (***ควรใช้แรงน้ำให้เหมาะสมกับสุนัขของท่าน***)  ไดร์เป่าให้แห้งด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสม (***ใช้แรงลมในการกำจัดเส้นขนที่ไม่แข็งแรงให้หลุดร่วงไป***) 
          จากนั้นซับความเปียกให้แห้งสนิท  ไม่มีความชื้น โดยใช้ไดร่เปาขนที่มีคุณภาพ ไดร่ให้แห้งจริงๆ ป้องกันการเกิดเชื้อรา ยีสต์ ได้  
           หลังจากนั้น ฉีกสเปรย์ ทรีตเมนต์ตอนขนหมาดๆ หรือขนแห้งก็ได้  เพื่อบำรุงขน ผิวหนังให้ชุ่มชื้นแข็งแรง ลดเส้นขนพันกัน  ซึ่งทรีตเมนต์จะเคลือบติดผิวหนังและขนได้ดีกว่าแชมพู  พบว่าขนใหม่ที่ขึ้นมาแข็งแรง หนาขึ้น นุ่มขึ้น และ ยาวขึ้น 
            การแปรงขนก็เช่นกันเป็นจัดระเบียนเส้นขนลดเส้นขนพันกัน สามารถแปรงได้บ่อยครั้งเพื่อเก็บขนที่ร่วงตามธรรมชาติไม่ให้ฟุ้งกระจาย และเป้นการนวดผิวหนัง  บล๊อกเกอร์จะใช้ช่วงเวลาดู TV รอบค่ำมาแปรงขนไป  ดู TV ไปคะ  (แนะนำเลือกแปรงที่เหมาะสมกับขนสุนัขเพื่อลดการฉีกขาดของเส้นขน)  ทั้งนี้ทั้งนั้นเส้นขนจะยาวมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น  พันธุกรรม สิ่งแวดล้อม  การดูแลทั้งภายนอกและภายใน คะ

ใครอยากให้ขนสุนัขสวยขึ้น นุ่ม และมันวาว  อันดับแรกเลย....ต้องรู้จัก Anatomy ของผิวหนัง และเส้นขนสุนัขก่อน  ซึ่งเป็นเรื่องราวที่หัวยุ่งรุงรัง  ขี้เกียจจะเข้าใจ  แต่วันนี้จะขออธิบายแบบง่ายๆ นะคะ


⇰ชั้นหนังกำพร้าของสุนัข (Canine epidermis) มีเซลล์ 3-5 เซลล์  จะมีการผลัดเซลล์ทุก 20 วัน  มีค่า pH 7-7.5 (pH ของสุนัขและแมวใกล้เคียงกัน)  ซึ่งแตกต่างจากมนุษย์ ที่มี 10-15 เซลล์ ผลัดเซลล์ผิวหนังทุก  28 วัน   ค่า pH 5.5 นั่นบ่งบอกว่าสุนัขมีผิวหนังที่บอบบางและใหม่กว่ามนุษย์ ผิวหนังสุนัขและแมวมีค่าสมดุลกรดด่างเป็นกลาง  แต่มนุษย์มีค่าสมดุลกรดด่างผิวหนังเป็นกรดอ่อนๆ
*** เน้นเลยคะ ห้ามใช้แชมพูเด็กอ่อน แชมพูคน เพราะ ค่าpH แชมพูคนมีความเสี่ยงจะทำร้ายผิวหนังสุนัขและแมวได้***
ลักษณะแชมพูสุนัขที่อ่อนโยนต่อผิวหนัง
1. pH Balance 7 ซึ่งใกล้เคียงกับค่า pH ในผิวหนังสุนัขและแมว ดังนั้นแชมพูตัวนั้นจะไม่ระคายเคืองต่อผิวหนัง ถ้าเป็นแชมพูที่กำจัดยีสต์ แบคทีเรีย เชื้อราโดยตรง มีการกำจัดหลายแบบ เช่น ปรับค่า pH จะสังเกตุว่า pH จะเป็นกรดอ่อนๆ ซึ่งกรดอ่อนจะเป็นสภาวะที่เชื้อรา แบคทีเรีย จะไม่สามารถดำรงชีพได้  หรือ ใส่ยา เป็นต้น
2.ล้างออกง่าย (Easy Rinse Cleaning) ซึ่งหมายถึง การล้างน้ำและเชื้อโรค สิ่งสกปรกต่างๆออกจากเส้นขนและผิวหนังได้ง่าย ช่วยลดความเสี่ยงสิ่งสกปรกตกค้าง โดยคนอาบน้ำ ไม่ต้องเกา ขัด ถู ผิวหนังสุนัขและแมวแต่อย่างใด แค่สระนวดเบาๆ สิ่งสกปรกก็หลุดออกมาอย่างง่ายดาย
3. Mild Surfectant (ส่วนประกอบที่ไม่ก่อให้เกิดความระคายเคือง) แต่ยังประสิทธิภาพในการทำความสะอาดได้ดีจริง โดยผิวหนังและเส้นขนไม่แห้ง หยาบกร้าน ไม่ทำให้ชั้นผิวหนังสุนัข แมว บางลง ซึ่งในปัจจุบันนิยม SLES  หรือ  ที่ดีกว่า  ถ้าไม่ใช้Surfectant เลย หมายถึงจะไม่มีสารอะไรช่วยทำความสะอาดผิวหนังและขนเลยนะคะ  (ปล.  SLES  ปลอดภัยและดีกว่า  SLS )

4.ส่วนประกอบที่ใช้ลดแบคทีเรียในเบื้องต้น (ไม่ใช่ยา) เพื่อดับกลิ่นสาบสุนัขและแมวให้ยาวนาน  มีหลายตัวที่ใส่ในแชมพูสัตว์เลี้ยง  และมีหลายระดับการกำจัดแบคทีเรีย (Level of Antiseptic)  และหลายราคา ดังนั้นก็อาจส่งผลต่อราคาผลิตภัณฑ์ เช่นกัน 
 แม้ว่ากลุ่มแชมพูที่ใส่ Fragrance (น้ำหอม) เพื่อดับกลิ่นสาบ จะพบว่าติดทนนานกว่า กลุ่มแชมพูที่ใส่Essential Oil (น้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติ) ซึ่งในปัจจุบัน จะพบว่า ผู้บริโภคนิยม Essential Oil มากขึ้น แม้ไม่ติดทนนานเท่ากลุ่มFragrance เพราะผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นในเรื่องผิวหนังสุนัขและแมวมากขึ้น (บล็อกเกอร์แนะนำเป็นกลุ่มทรีตเมนต์สเปรย์ หลังอาบน้ำ หรือ ใช้ทรีตเมนต์สเปรย์ในช่วงเวลาก่อนอาบน้ำได้ เพราะกลุ่มนี้จะมีส่วนประกอบที่ช่วยลดกลิ่นสาบได้ดีกว่า ติดทนทานและยาวนานกว่าแชมพู ) 


Natural Hypoallergenic Shampoo and Treatment Spray 
หรือแม้ส่วนประกอบในการกำจัดเห็บหมัด ผู้บริโภคจะนิยมใช้กลุ่มสมุนไพรในการกำจัดเห็บ หมัด ไร มากขึ้นเช่นกัน  โดยหวังผลระยะยาว ซึ่งเหล่านี้ไม่เป็นพิษสะสมต่อสัตว์เลี้ยง ไม่มีผลข้างเคียงใด หากใช้ในระยะยาวนาน เช่น หนอนตายหยาก ไพร ขมิ้น สะเดา เมล็ดน้อยหน่า และอื่นๆอีกมาก หากต้องการผลในการกำตัดเห็บ หมัด ไร อย่างรวดเร็ว ให้พิจารณาสารเคมีในท้องตลาด  โดยผ่านการพิจารณาจากสัตว์แพทย์จะปลอดภัยที่สุด
5.ส่วนประกอบที่กำจัด ยีสต์ เชื้อรา เป็นส่วนประกอบทางยาที่นำมาผสมในแชมพู เพิ่มเติม เช่น 2-4%คลอเฮ็กซีดีน (Broad Spectrum)  หรือ 2%  คีโตโคนาโซล ( Kill Fungus) หรือ นำกลุ่ม Ag+ (Silver Nono tecnology ที่มีค่า ppm ที่เหมาะสำหรับการฆ่าเชื้อได้จริง ซึ่งเป็น Broad Spectrum เช่นกัน) แนะนำให้ใช้ระยะสั้น ไม่ควรใช้ยาวนาน เพราะด้วยค่า pH และความรุนแรงของยา มีผลให้ผิวหนังแห้ง  ถ้ารักษาโรคผิวหนังต่างๆจบลงแล้วให้เปลี่ยนเป็นแชมพูที่อ่อนโยนต่อผิวหนังและเส้นขน ต่อมรากขน จะดีต่อสัตว์เลี้ยงที่สุด


มาดูภาพสีได้คะ  แต่คำอธิบายภาพขาวดำชัดเจนกว่าคะ  ซึ่งบ่งบอกถึงความหนานุ่มของขน ถ้า Secondary Hair น้อย ขนก็ไม่หนานุ่ม  สามารถเทียบสุนัขเพศเดียวในสายพันธ์เดียวกันได้คะ  จะบางพบว่าแต่ละตัวมีความหนาของขนแตกต่างกัน   นุ่มสลายแตกต่างกัน แล้วจะทำอย่างให้ให้  Primary Hair and Secondary Hair มีความแข็งแรงมันวาว หนานุ่ม ????  

ส่วนความยาวมากน้อยของ Primary Hair และ Secondary Hair นั้น สามารถเร่งให้ยาวได้ ภายใต้ข้อจำกัดทางพันธุกรรมที่ส่งต่อมาทางปูย่าตาทวดของสัตว์เลี้ยงในแต่ละครอบครัว

ถ้าสุนัขอายุมาก  หรือ มีโรคประจำตัว จะพบว่า ผิวแห้งมากกว่า ความสมบูรณ์และความแข็งแรงของต่อมรากขน เส้นขน น้อยกว่า  สุนัขที่อยู่ในวัยหนุ่มสาว ดังนั้น ผิวหนังของสุนัขเหล่านี้ต้องได้รับการดูแลภายในร่างกายด้วยน้ำมันปลา  และภายนอกด้วยแชมพูและทรีตเมนต์ที่อ่อนโยนอย่างแท้จริง

ภาพสีนี้ บอกถึงสุขภาพผิวหนังและต่อมรากขน  ซึ่งเกิดความแข็งแรง จากหลอดเลือดแดงที่ลำเลียงสารอาหารมาเลี้ยงต่อมรากขน (Hair Follicle) ซึ่งได้รับจากการรับประทาน หากร่างกายสุนัขดูดซึมได้น้อยอาจจะต้องให้อาหารเสริม พวกน้ำมันปลาได้ ให้แบบครั้งละน้อยๆแต่ให้ทุกมื้ออาหาร บางตัวกินเก่งมาก แต่ระบบการเผาผลาญดี(Metabolic)แต่กลับดูดซึมสารอาหารไม่ดี จะทำให้ตัวผอม เล็กซึ่งส่งผลไปยังสุขภาพขนอีกด้วย (ซึ่งบล๊อกเกอร์ใช้อยู่ในกลุ่มชิวาวาทีคัพ) *** ทั้งนี้ให้ผู้อ่านกินตามคำกำกับฉลากสินค้าเป็นดีที่สุด*** แต่ถ้าสุนัขมีระบบดูดซึมที่ดี ไม่จำเป็นต้องเสริม  แต่หากว่าเจ้าของต้องการเสริมก็ได้ เพื่อให้ต่อมรากขนและเส้นขนแข็งแรง ซึ่งจะพบว่าผิวหนังด้านนอกมีความชุ่มชื้น นุ่มนวล สีชมพูอ่อนสม่ำเสมอ จากการดูแลโดยใช้แชมพูที่อ่อนโยน หรือ ทรีตเมนต์ในการดูและเซลล์ผิวหนังด้านนอก และปลายขนที่งอกออกมาจากผิวหนังนั่นเอง 

 "Puppy Love Hypoallergenic Shampoo" และ "Puppy Love Treatment Spray" 

ถ้าเป็นมนุษย์สามารถใช้ผลข้างเคียงจากยาตัวหนึ่งในการเร่งการงอกของผมได้   แต่สุนัขไม่สามารถทำได้ ซึ่งปริมาณยามันมีผลต่อร่างกายที่มีขนาดเล็ก ซึ่งไม่แนะนำเลย !!!   ซึ่งวิธีข้างต้นทั้งหมดนี้บล๊อกเกอร์ใช้ดูแลสุนัข อาหารหลัก อาหารเสริม น้ำมันปลา การอาบน้ำ แปรงขน ร่วมกับการคัดเลือกส่วนประสมที่เหมาะสมกับสุนัข  โดยทุกอย่างอยู่ในความเหมาะสม ปลอดภัย  เช่น ว่านหางจระเข้ , น้ำมันมะพร้าว  , Panthenol (Pro Vitamin B5)  , พืชหนอนตายหยาก เป็นต้น จึงทำใช้ภายในบ้านมาหลายปี ปลอดภัย ขนขึ้นมันวาว นุ่น แข็งแรงและยาวไว ปัญหาการผลัดขนลดลง นั่นคือ  "Puppy Love Hypoallergenic Shampoo" และ "Puppy Love Treatment Spray" ที่มีส่วนประสมที่มีประสิทธิภาพในการดูแลผิวหนัง เส้นขน  ลื่นโดยไม่ต้องใช้ครีมนวด  กำจัดกลิ่นสาบ กำจัดแบคทีเรีย ยีสต์ และจุลชีพอื่นๆ กำจัดเห็บหมัด โดยส่วนประกอบทั้งหมดปลอดภัยสุนัขและแมว  ล้างสิ่งสกปรกออกง่าย ไม่เหนอะหนะ ไม่ทิ้งสารตกค้างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีสารก่อมะเร็ง  pH Balance



·       ว่านหางจระเข้  (Aloe Vera) ช่วยในเรื่อง Skin Revitalization มีหล่งกำเนิดดั้งเดิมอยู่ในชายฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนียน และบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกาว่านหางจระเข้ มีฤทธิ์ทางยาเย็นสมานแผลให้แผลหายเร็วขึ้น  เนื่องจากในว่านหางจระเข้มีสารอยู่ตัวหนึ่งเรียกว่า Aloctin A รักษาผิวหนังอักเสบ  ช่วยเร่งให้เซลล์ผิวหนังแบ่งตัวเพื่อซ่อมแซมผิวให้ดีขึ้น  นอกจากจะช่วยในเรื่องของการสมานแผลแล้ว ว่านหางจระเข้ยังมีการนำไปใช้ประโยชน์เพื่อลดการอักเสบ ช่วยเติมน้ำให้ผิวทำให้ผิวชุ่มชื้น และป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัย  เราจึงเห็นผลิตภัณฑ์ที่นำประโยชน์ของว่านหางจระเข้ไปเป็นส่วนผสมในรูปแบบต่างๆ เช่น รักษาบาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกระดับ 1 ,ครีมทารักษาโรคผิวหนังและแผลอักเสบ  ที่ช่วยรักษาการอักเสบของผิวหนังและเนื้อเยื่ออ่อน  หรือ ทำเป็นโลชั่นโดยมีส่วนประกอบของวุ้นว่านหางจระเข้ และใช้ช่วยในการกำจัดรังแคและบำรุงเส้นผมให้เงางาม จากนั้นนำมาชโลมผมให้ทั่วเพื่อให้ขนดูเงางาม แล้วนวดบริเวณรากขน จะช่วยบำรุงและรักษาแผลบนผิวหนังได้อีกด้วย



·       น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil)  น้ำมันมะพร้าว เป็นน้ำมันที่ได้มาจากการสกัด โดยวิธีการสกัดน้ำก็จะมีรูปแบบทั้งเย็นและร้อน โดยจะใช้เนื้อมะพร้าวมาสกัด ซึ่งองค์ประกอบหลักสำคัญของน้ำมันมะพร้าวเลยก็จะเป็นกรดไขมันอิ่มตัวขนาดโมเลกุลปานกลาง เพราะฉะนั้นแล้วกรดไขมันอิ่มตัวของน้ำมันมะพร้าวจึงสามารถที่จะทำให้ร่างกายดูดซึมเข้าไปใช้งานรวดเร็ว ซึ่งจะมีความแตกต่างกับน้ำมันรูปแบบอื่นๆเพราะจะต้องมีการดูดซึมผ่านทางน้ำเหลืองไปอย่างระบบต่างๆภายในร่างกาย  สำหรับน้ำมันมะพร้าวไม่จำเป็นที่จะต้องออกมากินเสมอไป น้ำมันมะพร้าวน้ำสามารถที่จะนำมาใช้ในการหมัก สระ ทา เพื่อดูแลเส้นขน ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคือจะทำให้ผมสวย เงางามแบบธรรมชาติ (Glossier Coat ) รวมไปถึงทำให้เส้นผมดูมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศส่วนใหญ่นิยมใช้น้ำมันมะพร้าวเป็นส่วนประกอบหลักเพราะสามารถเก็บกักความชุ่มชื้นให้ผิวหนังได้ดีมาก   นอกจากนี้น้ำมันมะพร้าวมีกรด Lauric เป็นส่วนประกอบซึ่งสามารถช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวได้อีกด้วย  


·   Tea Tree Oil  ชามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (Anti-Oxident)  และมีฤทธิ์ฆ่าเชื้ออ่อนๆ ช่วยขับและชะล้างสารพิษ (Detox) กลิ่นของชาช่วยให้สมองและอารมณ์ของสัตว์เลี้ยงผ่อนคลาย (Aroma Relaxation)

·       Panthenol (Pro Vitamin B5)  สามารถดูดซึมเข้าสู่เส้นขนและผิวหนังได้ และจะถูกเปลี่ยนเป็น Pantothenic Acid  หรือ Vitamin B5 ทันที มีความสำคัญมากสำหรับสุขภาพขน ลดการแตกปลาย เพิ่มความหนานุ่มแก่ขน และ ให้ความชุ่มชื้นผิวและขน ลดอาการอักเสบ/แพ้คัน ของผิวหนังได้ดี  1-5% สำหรับผสมในครีมบำรุงผิว (skin care)   และ  0.5-1% สาหรับผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม (Hair care)



·       พืชหนอนตายยาก  (Stemona Tuberosa Extract )   เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งซึ่งอยู่ในกลุ่ม Stemonine มี   ประสิทธิภาพในการกําจัดแมลง และศัตรูพืชได้ พืชหนอนตายหยากในวงศ์ Stemonaceae เป็นพืชหัวที่นำส่วนของรากมาใช้ประโยชน์ พบได้ในป่าทั่วๆ ไปของประเทศจีน ญี่ปุ่น อินโดจีน มาเลเซีย ลาว ไทย ฯลฯ  สำหรับประเทศไทยพบพืชหนอนตายหยากได้ทั่วไปทุกภาค และมีชื่อเรียกต่างกันตามท้องถิ่น เช่น พญาร้อยหัว กระเพียดหนู ต้นสามสิบกลีบ โป่งมดง่าม สลอดเชียงคำ ฯลฯ นอกจากนั้นพืชหนอนตายหยากในประเทศไทยยังมีความหลากหลายในชนิด (Speciesสามารถนำผลิตใช้ในเชิงอุตสาหกรรม เพื่อทดแทนการใช้สารเคมีหรือยาฆ่าแมลงชีวภาพได้ ในส่วนที่ใช้กับมนุษย์และสัตว์ เช่น นำมาฆ่าพยาธิ เห็บ เหา  หนอนในแผล (เวลาสัตว์เป็นแผล)  ริ้น ไร หรือ นำมาทำแชมพูสระให้กับสุนัข แมว และสัตว์อื่นๆ ได้อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันมีงานวิจัยตีพิมพ์หลายฉบับได้พบว่า พืชหนอนตายหยากให้ประสิทธิภาพในการกำจัดเห็บหมัดในสุนัขได้ดีมากโดยที่ไม่มีผลต่อร่างกายสุนัข  (Anti-Tick and Flea)


                   และคุณสมบัติอื่นๆอีก  ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ทำให้ล้างคราบสกปรกออกง่าย (Easy Rinse Cleaning) ไม่เหนียวเหนอะหนะ (Non Thickness)  กำจัดแบคทีเรีย (Anti bacteria) ลดกลิ่นสาบกลิ่นตัวได้ยาวนาน (Odorless)  ไม่ผสมสีหรือ กริสเตอร์ (Non color and Non Glitter) เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Environment Friendly)  ไม่มีวัตถุกันเสีย (Non Paraben)  ไม่มีซิลิโคน (Non Silicone) คุณภาพเทียบเคียงผลิตภัณฑ์มนุษย์ (Human Quality)
   
·      


Puppy Love Hypoallergenic Shampoo

Puppy Love Treatment Spray



      วิธีใช้ : 
  1. แตะน้ำที่อก และศรีษะให้ร่างกายสุนัขและแมวปรับอุณหภูมิร่างกายเสียก่อน 
  2. จากนั้นทำให้ขนเปียกน้ำให้ทั่วตัว
  3. กดปั๊มแชมพูPuppy Love Hypoallergenic Shampoo เนื้อเจลลงฝ่ามือละลายน้ำที่ฝ่ามือ  ชโลมแชมพูที่ผสมแล้วนวดให้ทั่วตัวสิ่งสกปรกจะหลุดมาง่าย โดยไม่เกา ขัด ถูผิวหนัง ฟองจะน้อย พอนวดไปเรื่อยๆ จะพบว่า เนื้อเจลแชมพูจะฟอร์มตัวเป็นเนื้อโฟมนุ่ม  ปราศจากสารระคายเคือง  ทิ้งไว้ 3-5นาที  เพื่อให้ฤิทธ์หนอนตายหยาก(กำจัดเห็บหมัดไร)ได้สัมผัสผิวหนังให้ครบถ้วน  โดยเฉพาะซอกนิ้วขาทั้ง4 และ หลังใบหู  รักแร้
  4. ล้างน้ำออกง่าย ไม่เหนียวมือ ซับแห้งให้หมาด  ไดร่ขนให้แห้ง จะรู้สึกถึงสภาพขนที่นุ่มและสลวยขึ้น สัมผัสได้ถึงความชุ่มชื้น
  5. จากนั้นลงสเปรย์  Puppy Love Treatment Spray (ช่วงขนหมาดได้ และ ขนแห้งได้) เพื่อบำรุงขนและผิวหนัง กำจัดเห็บหมัดไร และ ลดกลิ่นตัว คงกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ สามารถสเปรย์ได้บ่อยครั้งเท่าที่ต้องการ








คลิปวิดิโอการอาบน้ำด้วยแชมพู Puppy Love แถมเทคนิคการบีบต่อมเหม็น

      ข้อบ่งใช้ :  

      😀 ในสุนัขสายพันธ์ขนาดกลางและขนาดใหญ่สามารถใช้แชมพูและทรีตเมนต์ตั้งแต่ 45 วันขึ้นไป
     😀 ในสุนัขสายพันธ์ขนาดเล็กสามารถใช้แชมพูและทรีตเมนต์ตั้งแต่ 60 วันขึ้นไป
     😀 เหมาะทั้งสุนัขขนสั้น  ขนยาว และไม่มีขน
     😀 เหมาะสำหรับสุนัขแก่ ที่ชั้นผิวหนังอ่อนแอ บอบบาง หรือระคายเคืองง่าย


    

"Puppy Love Hypoallergenic Shampoo" (Tea Tree Essential Oil)  
มีขนาด 300 ml  

"Puppy Love Treatment Spray" (Tea Tree Essential Oil)
มีขนาด 100 ml  

***** แนะนำใช้ Puppy Love Hypoallergenic Shampoo ควบคู่กับ Puppy Love Treatment Spray เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการดูแลผิวหนังและเส้นขนอย่างต่อเนื่อง













วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

4 ประโยชน์ของน้ำมันปลาเพื่อ สุนัข แมว กระต่าย หนู



4 ประโยชน์จากน้ำมันปลาสำหรับสุนัข แมว กระต่าย หนู



น้ำมันปลา (Fish Oil)     คือ  ส่วนที่สกัดมาจากส่วนของเนื้อ หนัง หัว และหางของปลา โดยเฉพาะปลาในเขตหนาว ซึ่งในน้ำมันปลาจะมีกรดไขมันอยู่หลายชนิด
น้ำมันปลา ประกอบ  ด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 และกรดไขมันโอเมก้า 6
# กรดไขมันโอเมก้า 3 นั้นจะแบ่งออกเป็น
·       กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก หรือ EPA ( Eicosapentaenoic Acid )  เป็นกรดไขมันที่มีคุณสมบัติลดการสร้างโปรตีนในตับและลดปริมาณของคอเลสเตอรอลในกระแสโลหิต จึงป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ (แซลมอน 4 ออนซ์จะมี EPA ประมาณ 1,000 มิลลิกรัม)
·       กรดดีโคซาเฮกซาอีโนอิก หรือ DHA ( Decoxahexaenoic Acid )  เป็นหลัก ซึ่งเป็นกรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกายอย่างมาก เพราะว่าร่างกายสุนัขไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ และต้องได้รับจากสารอาหารเท่านั้น

# กรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า 6 นั้นก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะช่วยลดไขมันในเลือดได้ 
ปลาแซลมอนมีปริมาณของโอเมก้ามากกว่าในปลาทั่วไปถึง 4.7% นอกจากนี้ในน้ำมันปลาที่สกัดมาจากปลาแซลมอนนั้น ยังมีเบต้าแครอทีน (Beta-Carotene) ซึ่งจะช่วยบำรุงผิวหนังและขนของสุนัขให้เงางามแข็งแรง  ไม่หลุดร่วงง่าย   และยังช่วยรักษาอาการอักเสบของผิวหนัง ในกรณีที่สุนัขเป็นโรคผิวหนังอีกด้วย  

ชื่อนำโชค ชาย ขนสั้น ขนสวย ขนมันวาวด้วย น้ำมันปลา กินบ่อยได้เพราะไม่มีสารตะกัว สารปรอท ตกค้าง
คุณภาพน้ำมันปลาผ่านตรวจวิเคราะห์ในห้องแล็ปแล้ว
ชื่อเกลเกล  ตัวเมีย ขนอกยาวขึ้น  ขนยาวสลวย นิ่ม และ น้ำหนักขึ้นเล็กน้อย  อ้วนขึ้น


ประโยชน์ที่สุนัขแมวกระต่ายจะได้รับจากน้ำมันปลาแซลมอน
1.      กรดไขมันโอเมก้า 3 (EPA , DHA) , กรดไขมันโอเมก้า 6 , Beta-Carotene ในน้ำมันปลาแซลมอนจะช่วยบำรุงหล่อลื่นสุขภาพของผิวหนัง และขนของสุนัขให้เงางาม แข็งแรง ลดการผลัดขน ไม่หลุดร่วงง่าย
ชื่อ แต๊ะเอีย หญิง ชิวาวาสายไต้หวัน บำรุงหลังผลัดขน  หลังคลอด ใช้ชีวิตในห้องปรับอากาศ ผิวจะแห้ง
แนะนำกิน น้ำมันปลาแซลมอน  ได้บำรุงทั้งผิว บำรุงทั้งขน

2.      ช่วยเสริมความแข็งแรงของขน  ผิวหนังและเล็บ การทำงานของระบบหัวใจ มีสายตาที่ดี และช่วยเสริมการพัฒนาของสมองโดยเฉพาะในลูกสุนัขซึ่งได้จากกรด DHA
3.      ช่วยให้การทำงานของระบบกระดูกและข้อต่อต่างๆ  เล็บ  ขน สายตา หัวใจ และสมอง
ชื่อวิซ่า  ปอมเมอราเนียน 13 ปี  กินน้ำมันปลามาตลอด  ภาพนี้หลังป่วยโรคไต บำรุงด้วยน้ำมันปลา เพื่อเสริมสุขภาพ ระบบภูมิคุ้มกัน เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวและเส้นขน เพราะเป็นโรคไตแล้วสุนัขจะไม่อยากอาหาร  ผิวแห้ง น้องให้น้ำเกลือทุกวัน ชั้นใต้ผิวหนังจึงมีแต่น้ำ ในส่วนไขมันใต้ผิวหนังมีน้อยมาก
4. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน   และ  พิ่มความอยากอาหารให้สัตว์เลี้ยง


Puppy Love Salmon Fish Oil 100% ดูแลปัจจัยภายในร่างกาย ทุกพัฒนาการในช่วงหลังการผลัดขน เด็กเล็ก จนถึงวัยสูงอายุ ไม่มีผลต่อไขมัน ป้องกันโรคหัวใจอีกด้วย  ร่วมกับการดูแลปัจจัยภายนอก


ใช้น้ำมันปลาแซลมอน Puppy Love Salmon Fish Oil 100% เป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงประกวด
เพื่อเสริมสร้างกระดูก  ผิวหนัง ขน ให้นุ่ม สลวย พริ้วเวลาเดินลงสนาม

 วิธีการเก็บรักษา น้ำมันปลาแซลมอน ซึ่งทางการแพทย์ เรียกกลุ่มนี้ว่า "อาหารเสริม" หรือ "วิตามิน" ซึ่งน้ำมันปลาทุกชนิดจะมีวิตามินที่ละลายในไขมัน Vitamin A D E เป็นส่วนประกอบจึงควรเก็บในที่แห้งและ ไม่โดนแสง หรือ อยู่ในภาชนะที่ทึบแสง เช่น ขวดสีชา ขวดทึบแสง เก็บที่อุณหภูมิห้องปกติ เพื่อป้องกันวิตามินในน้ำมันปลาเสื่อมสภาพ ทำให้ประสิทธิในการทำงานต่อร่างกายสัตว์เลี้ยงลดลง ไม่ได้ผลเท่าที่ควร  

Package ส่งสินค้า ปิดจุกสนิท น้ำมันไม่สามารถไหลออกมาได้
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังรับประทานน้ำมันปลาแซลมอน
  น้ำมันปลาแซลมอนถือว่าเป็นอาหารเสริมที่ดีสำหรับสุนัข ดังนั้นจึงสามารถใช้ได้ตั้งแต่ลูกสุนัขจนถึงสุนัขสูงอายุ แต่ก็ต้องให้ในปริมาณที่เหมาะสมกับน้ำหนักตัวของสุนัข เพราะน้ำมันปลาสามารถกระตุ้นความอยากอาหาร และ น้ำหนักตัวเพิ่มอย่างรวดเร็วได้  ส่วนใหญ่แล้วผลข้างเคียงที่พบมากที่สุดที่เกิดจากการให้น้ำมันปลาแซลมอนก็คือ อาจจะมีกลิ่นน้ำมันปลาจากลมหายใจของสุนัขหรือผิวหนังของเขา  และช่วงแรกที่ผู้เลี้ยงให้สุนัขแมวกินน้ำมันปลาแซลมอน สุนัขและแมวอาจจะมีอาการถ่ายเหลวบ้าง ถือว่าเป็นอาการปกติ  หลังจากกินไปเรื่อยๆ ร่างกายของสุนัขและแมวก็จะปรับตัวได้และถ่ายเป็นปกติเอง 
**** (เด็ก 30 ตัวของบล๊อกเกอร์เองกินน้ำมันปลาพร้อมมื้ออาหารตามปริมาณที่กำหนดหรือน้อยกว่าที่กำหนดอีกคะ แถมกินบ้างไม่กินบ้าง เฉลี่ย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ไม่มีอึเหลวเลยคะ สุขภาพขนและผิวหนังดีขึ้น  แถมกินอาหารเม็ดเพิ่มขึ้นอีกด้วย) 

  ข้อแนะนำเพิ่มเติมในส่วนของบล๊อกเกอร์เอง คือ  การให้กินน้ำมันปลาควรอยู่ในปริมาณกำหนด หรือน้อยกว่า  เพราะส่วนที่เกินออกมาที่ร่างกายไม่ดูดซึมจะถูกขับถ่ายออกมา ลักษณะเหลว  เหนียว ไม่เป็นก้อน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระบบการดูดซึมของสุนัขและแมวของท่านเอง


ชื่อไปฉะ เป็นลุกสาวของแม่ฮันยอน : ตัวเมียขนยาวไม่มาก : ภายหลังหลังผลัดขน บำรุงด้วยน้ำมันปลา 
สัปดาห์ละ 3 ครั้ง (2.5 ml / Day) ลักษณะขนมันวาว จำนวนขนหนาแน่น มากขึ้น



ชื่อแม่ฮันยอน : ชิวาวาตัวเมียขนยาว : ภายหลังหลังผลัดขนและหลังคลอด บำรุงด้วยน้ำมันปลา 
สัปดาห์ละ 2 ครั้ง (2.5 ml / Day) 



         *** Puppy Love Salmon Oil 100 %  ***


น้ำมันปลาสีเหลืองเข้ม  ใส  ไม่มีตะกอน ไม่มีกลิ่นหื่น สะอาด ปลอดภัย ด้วยกรรมวิธีการผลิตที่ดี

Puppy Love Salmon Oil  100%  เป็นผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาแซลมอนบริสุทธิ์จากธรรมชาติ เสริมสารอาหารที่ร่างกายผลิตเองไม่ได้ เหมาะสำหรับสัตว์เลี้ยง เข้าจากประเทศนอร์เวย์ คุณภาพระดับพรีเมียม  ประกอบด้วย กรดไขมันโอเมก้า 3 (EPA , DHA) , กรดไขมันโอเมก้า 6

🔺สกัดจากปลาแซลมอนธรรมชาติ จากประเทศนอร์เวย์แท้ 100% ปราศจากสารเคมีและสิ่งปนเปื้อน  ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี
🔺ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้แก่ต่อมรากขน และ ผิวหนัง ทำให้เส้นขนไม่หลุดร่วง
🔺เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดี เพิ่มน้ำหนัก ลดอาการภูมิแพ้
🔺 ช่วยให้การทำงานของระบบกระดูกและข้อต่อต่างๆ
🔺กลิ่นของน้ำมันปลาแซลมอนอาจจะช่วยเพิ่มความอยากอาหารให้สัตว์เลี้ยงที่กินยาก
🔺ใช้ได้ทุกวันโดยไม่มีสารตกค้าง 
🔺 สามารถใช้ได้ทั้งสุนัข แมว กระต่าย หนู
🔺 บรรจุภัณฑ์ปลอดภัยจากความชื้นและแสงแดด
🔺 ระบุวันผลิตและหมดอายุชัดเจน 2 ปี
🔺เก็บรักษาตามอุณหภูมิห้อง  ไม่ต้องแช่เย็น
🔺โรงงานผลิตได้มาตราฐานจากกรมปศุสัตว์

นำจุกปั๊มใส่ขวดเพื่อปั๊มน้ำมัน หลังใส่แล้ว ห้ามคว่ำขวดเพราะน้ำมันจะไหลเยิ้มออกมาได้
มีขนาด 250 ml  และ  500 ml

น้ำมันปลาแซลมอน100% ได้รับการตรวจความปลอดภัย คุณภาพ วิตามิน ความชื้นจากห้องแล็ป และ กรมปศุศัตว์


ส่วนปริมาณการให้น้ำมันแซลมอนกับสุนัขและแมว

คลุกในอาหารในปริมาณเล็กน้อย  สัปดาห์ละ 2-7 ครั้ง ขึ้นอยู่กับระบบการดูดซึมกรดไขมันดีของสัตว์เลี้ยงแต่ละตัว
กินเรียบ เกลี้ยงชาม

 ถ้าหากให้อาหารมากกว่า 1 มื้อต่อวัน  แนะนำให้ผสมในอาหารสัตว์เลี้ยงที่เราให้ปกติไม่ว่าจะเป็นอาหารเม็ด อาหารกระป๋อง อาหารปรุงเอง หรืออาหารสด ดิบ (Barf) หากสุนัขไม่คุ้นชินให้ค่อยๆผสมที่ละนิดจนเกิดความเคยชิน  โดยให้แบ่งเฉลี่ยไปตามสัดส่วนนี้ค่ะ 
น้ำหนัก  1-5 กก.        1/2 ช้อนชา/วัน หรือ (1/2 Pump / Day) หรือ 2.5 ml.
น้ำหนัก  5-10 กก.        1 ช้อนชา/วัน หรือ (1 Pump / Day) หรือ 5 ml.
น้ำหนัก  10-20 กก.      2 ช้อนชา/วัน หรือ (2 Pump / Day) หรือ 10 ml.
น้ำหนัก  20-50 กก.      3 ช้อนชา/วัน หรือ (3 Pump / Day) หรือ 15 ml.  
ชื่อ พ่อยูโร ตอนอายุ  2 ขวบ  เริ่มต้นได้รับการดูแลปัจจัยภายในด้วยน้ำมันปลาแซลมอน และ ดูแลปัจจัยภายนอก

ชื่อ พ่อยูโร ตอนอายุ 3 ขวบขึ้นไป ผลัดขนแล้วบำรุงด้วยน้ำมันปลาแซลมอน 100%


ชื่อไทเกอร์ ลูกชายของยูโร  กินน้ำมันปลาแซลมอนแท้ 100%  (Puppy Love Salmon Fish Oil)  ตลอดตั้งแต่ 1 ปี บำรุงเส้นขน  เสริมสร้างน้ำหนัก  เพราะไทเกอร์ไม่ค่อยยอมกินข้าว ผอมบาง 

ไม่ควรให้สัตว์เลี้ยงทานเกินที่กำหนด เพราะอาจมีผลต่อน้ำหนักตัวได้ 

การเก็บรักษา

  • บรรจุภัณฑ์ในขวดสีชาทึบแสง ปลอดภัยจากความชื้น และ แสงแดด 
  • เก็บที่อุณหภูมิปกติ
น้ำมันปลาแซลมอน อุดมด้วยกรดไขมันที่ร่างกายผลิตเองไม่ได้  ต้องได้รับการเสริมจากภายนอก
ซึ่งเป็นไขมันดี ไม่ก่อให้เกิดโรค ลดอลเลสเตอรอลในร่างกายได้

ราคา
  • ขนาด  250 ml   ราคา   390 บาท 
    • (ชิวาวา ปอม ยอร์เชียร์ 1 ขวด 250 ml.กินได้ 3 เดือน)
  • ขนาด  500  ml  ราคา   690 บาท 
    • (ชิสุห์ แจ็ค เฟรนบลูด็อก 1 ขวด กินได้ 3 เดือน)
    • (บางแก้ว  ไซบีเรียน โกลเด้น 1 ขวด กินได้ 1.5 เดือน)



Do not hesitate. Please DM to admin. 
Nice to service you all.🥰

Contact at   T.090-8907733

Shoppee>>> shopee.co.th/puppylovethailand

ลาซาด้า >>> https://s.lazada.co.th/s.9CuKN

Tiktok >>> Puppy Love Thailand

Line shop >>> https://shop.line.me/@txh4490r

Line ID >>>   https://line.me/ti/p/xNS5NcNrkk

Line ID >>> 0616919192

                                         https://line.me/ti/p/xNS5NcNrkk